09 July 2016
แฮมเบิร์กอร่อยๆที่ร้าน Montblanc ในอาซากุสะ (Asakusa)
เที่ยงแล้ว..หิวแล้ว..บ่นมาตลอดทางระหว่างหาร้านอาหารเที่ยงเลยว่า ไม่อยากกินแฮมเบิร์ก ไม่อยากกินข้าวราดแกง อยากกินอาหารญี่แบบเซท แต่พอเดินไปเดินมาดูหน้าร้านโน้นทีหน้าร้านนี้ที ก็มาเจอร้านแฮมเบิร์กที่เพื่อนแนะนำว่า "ร้านนี้อร่อยนะ!!"
ลองมายืนมองเมนูหน้าร้าน พร้อมกันเห็นจำนวนคำที่ยืนรอแล้ว สรุปเอาเองเลยว่าร้านนี้ต้องอร่อยแน่ๆ ว่าแล้วก็ต้องตัดสินใจสินะว่าจะกินอะไรดี ระหว่างยืนรอก็เห็นมันมีเมนูกุ้งทอด เมนูสเต็ก เมนูสตู เมนูแฮมเบิร์กมากมาย แต่เนื่องจากร้านนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียงแฮมเบิร์กอร่อย สภาพการณ์เลยทำให้ผมอยากกินแฮมเบิร์ก
พอเล็งไปที่เมนูแฮมเบิร์กดู ปรากฎว่ามีซอสราดให้เลือกต่างๆกันตั้ง 6ชนิด สับสน!! จะกินอันไหนดี เห็นอะไรก็อร่อยไปหมดทุกอย่าง หลังจากคิดอยู่ไม่กี่นาที ก็สรุปได้ว่าจะกินซอสมะเขือเทศกับชีสในเมนูที่ชื่อว่า สไตล์อิตตาเลี่ยน
วันนี้เป็นวันฝนตก มีป้ายตั้งหน้าร้านว่า “วันฝนตกให้เติมข้าว เติมซุปฟรี”
สุดยอด!! โชคดีที่มาวันฝนตก 555
ว่าแล้วก็เริ่มหม่ำๆ แถมเติมข้าวด้วยแบ่งกับเพื่อนคนละครึ่งจาน แฮมเบิร์กนุ่มๆอร่อย แถมซอสราดยังซื้อใจผมไปไว้ได้อีก เพิ่งรู้ว่าบริเวณแถวอาซากุสะ (Asakusa) ก็มีร้านอาหารอร่อยๆอย่างนี้เหมือนกัน ครั้งนี้หลงไหลในความอร่อยจนลืมชูสองนิ้วเลย
02 July 2016
อิ่มพุงกางแต่มาต่อที่ HARBS ร้านเค้กใน LUMINE EST
ก่อนหน้าที่จะเดินเข้าร้านเค้ก HARBS เพื่อมาชูสองนิ้วที่นี่นั้น ผมได้ฟาดชาบูชาบูหมูที่ร้าน TONVEGE (トンベジ) มาแล้วเรียบร้อย เสร็จจากคาวก็มาตามต่อด้วยหวาน
ที่ร้านเค้ก HARBS นั้นเมนูไม่มีรูปภาพถ่าย แต่เป็นภาพเขียน เหมือนภาพเขียนสีไม้ ซึ่งถ้าดูเมนูอย่างเดียวต้องจินตนาการณ์เอาเองว่า เค้กหน้าตาอย่างที่เขียนไว้นั้นเป็นอย่างไร มันทำใหู้้สั่งรู้สึกติ้นดต้นกับเค้กที่จะได้รับ เพราะไม่รู้ว่าหน้าเป็นยังไง แต่ที่หน้าร้านมีตู้ตัังเค้กขายให้เห็นหน้าตาที่แท้จริงของเค้ก !! ถ้าอยากรู้ว่าเมนูไหนหน้าตาเป็นยังไง ต้องดูที่ตู้เค้กก่อนเข้าร้านสั่ง
ผมกินอะไรน่ะหรอ เมนูยอดฮิตของร้านนี้เลย นั่นคือเมนูมิวเครป (Mille crêpes) ในภาษญี่ปุ่นเค้าจะเขียนว่า Mirukure-pu (ミルクレープ) เป็นเนื้อเค้กนุ่มๆที่ภายในเต็มไปด้วยผลไม้ต่างๆ และเปลือกเค้กภายนอกเป็นเครปนุ่มๆ ใช้มีดสเต็กกับส้อมในการกินเพราะต้องหั่นผลไม้ต่างๆที่อัดแน่นอยู่ด้านใน
ส่วนเพื่อนๆสั่งช็อกโกแลตเค้กที่มีถั่ว walnut อยู่ด้วย ช็อกโกแลตอย่างขม !! คนรักช็อกโกแลตต้องชิ้นนี้เลย และอีกชิ้นเป็นเมล่อนเค้ก หอมและหวานเมล่อนสีเขียว อันนี้น้ำลายไหลเลยแหละ
คราวหลังถ้ามีโอกาสอยากมากินเมล่อนเค้กที่นี่อีก
แปลงร่างเป็นหมูเมื่อมากินชาบูที่ TONVEGE (トンベジ)
เพื่อนชวนอะ..ผมก็เลยหลวมตัวไปกับเค้า มื้อเย็นวันนี้คืออะไรนั้นไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อน หลังจากที่รวมตัวกันเรียบร้อย พวกเราก็เดินหาร้านอาหารในห้าง LUMINE EST ที่ชินจูกุ ถึงคราวต้องเลือกว่าจะไปชูสองนิ้วที่ไหนดี ระหว่างร้านอาหารเกาหลี ร้านชาบูชาบู และร้านอาหารอินเตอร์ ผมเองก็ตัดสินใจไม่ค่อยถูก แต่ด้วยความอยากกินเนื้อสัตว์หนักๆ ก็เลยเสนอไปว่าร้านชาบูชาบู TONVEGE (トンベジ) ครับ !! แล้วข้อเสนอนี้ก็กลายเป็นที่สรุป ตกลงว่าพวกเราจะเข้าไปหม่ำๆและชูสองนิ้วที่ TONVEGE (トンベジ)
อยากกินเนื้อหมู !! เมนูชาบูชาบูแบบบุฟเฟ่ต์นั้นมีให้เลือก 2 แบบหลักๆคือ ชาบูชาบูธรรมดา หรือ ชาบูชาบูม้วนใส่ผักสด คือ มีผักสดให้เป็นจานใหญ่ๆ เพื่อให้นำมาห่อหมูที่ต้มชาบูชาบูเรียบร้อยแล้วก่อนกิน เป็นการกินสไตล์ใหม่ ผมเลือกสไตล์เดิม คือ เอาทั้งหมูทั้งผักลงไปต้มในหม้อแล้วกินเหมือนชาบูทั่วไป สามารถเลือกน้ำซุปในหม้อได้ 2แบบ พวกเราเลือกน้ำซุปคอมบุ (ธรรมดา) กับน้ำซุปจิเกะ (เผ็ดๆ)
งานนี้กินไม่ยั้งเพราะว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ สามารถกินได้ 90 นาที ซึ่งออเดอร์สุดท้ายที่สามารถสั่งได้ จะปิดรับหลังกินไปแล้วประมาณ 60นาที หลังจากที่น้ำเดือดผมก็เริ่มหม่ำๆเลยสิครับ
ตอนท้ายหลังจากกินชาบูชาบูเรียบร้อยหมดแล้ว จะมีข้าวพร้อมไข่ไก่มาให้ทำข้าวต้ม เพื่อเป็นการปิดท้ายวิธีการกินอาหารแบบหม้อๆ ของญี่ปุ่น เค้าคงกลัวว่าผมจะไม่อิ่ม ไม่มีใครรู้ว่าผมอิ่มมาก..ก พุงกาง แต่ยังไม่จบเท่านี้เพราะพวกเราจะไปที่ร้านเค้กกันต่อ !!
20 May 2016
ครั้งแรกกับการตะลุย Japan Alps เส้นทาง Alpine Route
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง หลังจากกินโซบะตอนเช้าเสร็จ ที่บริเวณสถานีโทยาม่า (Toyama) เรียบร้อยแล้ว ผมก็เริ่มออกเดินทางจากสถานีเด็นเท็ตสึโทยาม่า (Dentetsu Toyama - 電鉄富山) ไปยังสถานีทาเทยาม่า (Tateyama - 立山) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ผมซื้อตั๋วรถไฟและยานพาหนะต่างๆเพื่อใช้ในการเดินทางผ่าน Japan Alpine Route แบบเซทที่สถานีเด็นเท็ตสึโทยาม่า (Dentetsu Toyama - 電鉄富山) นี้ ราคาประมาณ 9,000เยน มารู้ที่หลังว่าเดินทางแบบกรุ๊ปจะได้ราคาที่ถูกกว่าเพราะเป็นราคาตั๋วแบบกรุ๊ป ยังไงจำนวนผู้เดินทางในวันนี้ก็ไม่ถึงจำนวนที่จะเป็นกรุ๊ปได้อยู่แล้ว ช่วยไม่ได้แฮะ
เมื่อนั่งรถไฟอย่างยาวนานถึงสถานีทาเทยาม่า (Tateyama - 立山) ก็มีเวลาแวะชูสองนิ้วถ่ายรูปสักพักก่อนที่จะต่อด้วยกระเช้าเคเบิ้ลคาร์เพื่อไปยังสถานีบิโจไดระ (Bijodaira - 美女平) เมื่อถึงสถานีบิโจไดระแล้วผมก็นั่งรถบัสต่อมายังกำแพงหิมะ (Tateyama Yuki no Otani - 立山・雪の大谷)
ที่นี่แหละจุดที่อยากจะดู ที่กำแพงหิมะ (Tateyama Yuki no Otani - 立山・雪の大谷) นี่แหละ รถบัสขับมาจอดบริเวณลานจอดรถซึ่งอยู่ใกล้กับตึกที่มีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ผมเลยแวะเข้าห้องน้ำและเล็งๆหาของกินเล่นไว้ก่อนแต่ยังไม่ซื้อ หลังจากเตรียมตัวพร้อมแล้วก็เดินออกนอกตึกเพื่อไปยังกำแพงหิมะ ถึงแม้ว่าจะเข้าสู่เดือนพฤษภาคมแล้วแต่หิมะก็ยังก่อตัวสูงเป็นกำแพงให้ได้เห็นอยู่
ณ จุดนี้ผมได้มาชูสองนิ้วที่ความสูง 2,390m ในความหนาวอุณหภูมิ 7’c สภาพอากาศปลอดโปร่ง ฝนฟ้าเป็นใจให้ถ่ายรูป ดีใจจัง เดินเล่นอยู่บริเวณนี้สักพักก่อนที่จะเดินกลับเข้าอาคารเพื่อหาของว่างกินรองท้องที่เริ่มร้องจ๊อกๆนิดๆ ผมซื้อซาลาเปาไปกินบนรถรางระหว่างเคลื่อนที่เพื่อไปยังเขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam - 黒部ダム) อีกจุดหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ของเส้นทาง Alpine Route นี้
เมื่อเดินทางถึงเขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam - 黒部ダム) สิ่งแรกที่เป็นความประทับใจคือ ความใหญ่!! และความสวยของน้ำในเขื่อนที่เป็นสีเขียวมรกต และอันดับต่อมาที่เป็นความประทับใจคือ การปล่อยน้ำในเขื่อนให้ไหลออกมาอย่างแรงและเกิดรุ้งกินน้ำสีสวย!! ตามที่อ่านจากหนังสือไกด์บุ๊คก่อนเดินทางมา เค้าเขียนว่าช่วงนี้จะไม่มีการปล่อยน้ำ และจะมีการปล่อยน้ำอีกครั้งหนึ่งหลังเดือนมิถุนายน แต่วันนี้โชคดีที่มีการปล่อยน้ำเป็นกรณีพิเศษ เลยกลายเป็นความประทับใจอีกอย่างหนึ่ง
ในหนังสือไกด์บุ๊คเขียนแนะนำว่า ถ้ามาที่นี่แล้วให้กิน ข้าวราดแกงเขื่อนคุโรเบะ ผมก็เลยจัดตามหนังสือไกด์บุ๊คเขาแนะนำ มันเป็นข้าวราดแกงที่น่ารักมากจนไม่กล้ากิน ก็เค้าทำแกงเป็นสีเขียวให้เหมือนกับน้ำในเขื่อน ซึ่งมันก็คือข้าวราดแกงเขียวหวานของไทยเรานี่เอง!! แต่ญี่ปุ่นเขาเอามาทำเป็นอาหารประจำสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ไปแล้ว อร่อยด้วย!! 555 นอกจากนี้ยังมีราเมงน้ำซุปสีเขียวด้วย
หลังจากกินข้าวเรียบร้อยแล้ว ผมก็เริ่มมีแรงเดินต่อ ก็เลยลองเดินไปดูห้องฉายวีดีโอซึ่งมีการเล่าประวัติเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนคุโรเบะแห่งนี้ ในสมัยก่อนมีคนที่ต่อต้านการสร้างเขื่อนเป็นจำนวนมาก และมีผู้คนที่ต้องสละชีพเพื่อการสร้างเขื่อนแห่งนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน ระหว่างการสร้างเขื่อนเกิดแผ่นดินไหวและมีอุปสรรคต่างๆมากมายแต่คนสมัยก่อนก็ยังสามารถสร้างเขื่อนได้ใหญ่ขนาดนี้เป็นที่สำเร็จ
บริเวณรอบเขื่อนจะมีบันไดให้เดินขึ้นไปที่จุดชมวิว ขนาดผมไม่ใช่คนสร้างเขื่อนแต่เป็นแค่คนที่มาเดินเที่ยวยังรู้สึกเหนื่อยกับความสูงของเขื่อน พอลองย้อนมองกลับไปถึงคนสมัยก่อนแล้วรู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนที่มีความพยายามกันมาก..น่านับถือ
หลังจากทราบซึ้งอยู่สักพัก แล้วผมก็ออกเดินทางไปยังสถานีโอกิซาว่า (Ogizawa) เพื่อทำการออกจากเส้นทาง Alpine Route แห่งนี้และมุ่งหน้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวจุดต่อไป
กินทาเทยาม่าราเม็ง ในที่สุดก็เจอร้าน “ฮาจิบังราเม็ง“ ในญี่ปุ่น
ตอนอยู่ประเทศไทยผมชอบกินราเม็งที่ร้าน “ฮาจิบังราเม็ง“ มาก เห็นด้านหลังของเมนูอาหารในร้านจะเขียนบรรยายไว้ว่าเป็นร้านที่มีหลายสาขาในญี่ปุ่น มีชื่อเสียงมาก แต่พอได้มาอยู่ที่โตเกียว พยายามมองหาร้านราเม็งที่ชื่อและโลโก้เดียวกันกับ “ฮาจิบังราเม็ง“ แต่ก็ยังหาไม่เคยเจอ ครั้งนี้โชคช่วยให้อยู่ดีดีก็เจอ
ทริปการชูสองนิ้วเที่ยว Japan Alps ที่เส้นทาง Alpine Route ของผมในครั้งนี้นั้นเริ่มขึ้นจากทางฝั่งจังหวัดโทยาม่า (Toyama) บริเวณสถานีโทยาม่านี่เลย รถบัสที่นั่งมาจากโตเกียวเมื่อคืนมาถึงที่นี่เช้า เพราะฉะนั้นข้าวเช้าก็ต้องเป็นที่สถานีนี้สินะ ตื่นและลงรถบัสมาก็หิวเลย พอเดินหาร้านอยู่ว่าจะกินอะไรดี ผมก็เจอป้ายร้าน “ฮาจิบังราเม็ง“ แต่ว่ายังไม่เปิดให้บริการเพราะว่าร้านอยู่ในห้างตึกสถานี
ถึงแม้ร้านจะยังไม่เปิดบริการแต่ก็ดีใจที่ได้เจอ อยากลองเข้าไปกินดูว่ารสชาติจะเหมือนกับสาขาที่ไทยหรือเปล่า แต่ร้านไม่เปิดก็ช่วยไม่ได้ ว่าแล้วก็มองหาร้านที่คิดว่าใช่ จนเจอร้านโซบะแบบเร่งด่วนอยู่ร้านหนึ่งใกล้ๆสถานี จึงตัดสินเอาที่นี่
วิธีการสั่งคือหยอดเหรียญใส่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัตและเอาตั๋วยื่นให้พนักงาน ผมยื่นตั๋ว “ทาเทยาม่าเท็มปุระโซบะ“ ให้กับคุณป้าในครัว สักพักสิ่งที่สั่งก็ออกมาวางบนถาดหน้าเค้าเตอร์ ต้องยกไปยังที่นั่งเอง น้ำเปล่าก็กดเองเป็นแบบบริการตนเองทั้งหมด ป้าๆแกจะอยู่แต่ในครัวไม่มีใครออกมาข้างนอกเลย
ในชามโซบะมีแผ่นปลานารุโตะที่เขียนว่า Tateyama ด้วย!! อันนี้แหละต้นตำรับแบบน่ารักๆ เมนูหนึ่งของร้านโซบะแบบเร่งด่วนบริเวณสถานีโทยาม่า หลังกินเสร็จแล้วก็ต้องเอาจานชามไปเก็บเองที่จุดคืนภาชนะ และเช็ดโต๊ะให้ร้านเค้าด้วย รู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กดียังไงก็ไม่รู้
15 May 2016
สุดคุ้ม!! อุด้งชามใหญ่ที่ ซึรุตงตัง
มาเยือน Roppongi พร้อมอาหารเย็นด้วยอุด้งชามใหญ่ที่ Tsurutontan ที่นี่ให้อุด้งฟรีโดยไม่เพิ่มราคาซึ่งสามารถขอเพิ่มได้สูงสุดถึง 3เท่า!! ฟังดูแล้วรู้สึกคุ้ม
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2ที่ผมมากินอุด้งที่นี่ ครั้งแรกอิ่มพุงกางกับการสั่งอุด้งแบบคนละจาน มันเป็นบทเรียนที่สอนให้รู้ว่าครั้งนี้ควรสั่งมาแชร์กันกิน คราวนี้เลยเลือกเมนูอย่างรอบครอบ
เมนูมีให้เลือกมากมายมากกว่าเมนูอุด้ง ครั้งนี้ผมจึงเลือก Nabe Yaki Udon (อุด้งหม้อดินเผา) กับ ซูชิอาโวคาโด้โดยเพิ่มเส้นอุด้งให้เป็น 2เท่า แค่ 2รายการนี้ก็อิ่มเกินคุ้ม แต่ตาดันเหลือบไปเห็นเมนูไอศกรีมซึ่งวางอยู่บนโต๊ะเขียนว่า “ซอฟต์ครีมที่ทำจากอุด้ง“ เห็นอย่างนี้จะพลาดได้ยังไง จัดเลยสิครับ
ซอฟต์ครีมหวานมาก...ก คนไม่ชอบหวานไม่แนะนำ แต่กินยังไงก็ไม่รู้ว่าทำจากอุด้ง 555 รสชาติเป็นเหมือนซอฟต์ครีมรสวานิลาปกติทั่วไป สำหรับคนชอบของหวานอย่างผมก็อร่อยดีนะครับ
Subscribe to:
Posts (Atom)